ปกติผมแทบจะไม่มีอะไรที่จะตื่นเต้นและชื่นชมผลงานอะไรเลยของน้องสาวคนสุดท้องของครอบครัวผม ทั้งนี้ เพราะตั้งแต่แกจบปริญญาตรีทางด้านกีฏวิทยา ที่เกี่ยวข้องกับแมลงมาเมื่อปี 2520 แกก็รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ด่านกักกันพืชจากนั้นมาจนเกือบเกษียณอายุราชการ ซึ่งงานที่แกทำ แทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทางวิชาการเลย ผมจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับผลงานของแก เพราะแกไม่มีผลงาน แต่พอเกษียณอายุจากราชการจริงๆ แกก็หมุนเขว้งของแกอยากทำโน่น นี่ เที่ยวนั่นนี่ จนแกสมใจแล้ว แกก็บอกผมว่า แกพอแล้ว แกยอมแล้วที่อยากจะทำแบบผมบ้าง

โดยผมเริ่มต้นรับราชการจริงๆแค่ 4 ปี จากนั้น ผมท่องยุทธจักรด้วยการออกไปทำงานในต่างประเทศ โดยเอาเห็ดเป็นหลัก ส่วนเรื่องรองมีอีกเยอะแยะมากมายที่น่าตื่นเต้น สยดสยอง โลดโผนมากว่าสี่สิบปี แกเลยมาขออาสาที่จะทำงานร่วมกับผมโดยดุษฏี(หมายถึงพร้อมรับคำสั่ง หากไม่ถูกใจปลดออกทันที) ผมจึงมอบหมายให้แกไปปฏิบัติงานแทนที่ประเทศมัลดีฟ ซึ่งแกไม่มีพื้นความรู้อะไรในทางปฏิบัติเลย ผมจึงบอกว่า ให้ไปเริ่มจากการเพาะกล้าเมล็ดพันธุ์ แล้วไปเรียนการขยาพันธุ์พืช ติดตาต่อกิ่ง ตอนให้เข้าใจเสียก่อน จากนั้น บอกแกว่า ให้แกไปรื้อฟิ้นความรู้เรื่องของโรคพืชและแมลง โดยใช้วิธีเรียนลัด เออว่ะ แกเชื่อครับ(เพราะแกอยากไปเที่ยวมัลดีฟ) แกก็ไปฝึกการเพาะเลี้ยงไส้เดือนฝอยกับ ดร.นุชนาถ ไปพบ ดร.จริยา เรื่องการใช้เชื้อ Bt กำจัดหนอนแมลง ไปฝึกงานดูงานเรื่องไม้ผลที่สถานีทดลองที่ราชบุรี ไปฝึกติดตามทาบกิ่งที่เชียงใหม่ จนแกเริ่มมีความมั่นใจบ้างแล้ว(นิดหน่อย) ผมก็ส่งแกไปที่ประเทศมัลดีฟทันที

ซึ่งเป็นช่วงที่ ทั้งประเทศของมัลดีฟ อันประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆกว่าสามหมื่นเกาะ เป็นเกาะที่มีคนอาศัยอยู่สองสามพันเกาะ และเกาะไหนที่มีต้นไม้ หญ้าขึ้น ช่วงนี้ของทุกปี จะมีแมลงระบาดกัดกินต้นไม้รูพรุนไปหมด
ที่รีสอร์ทขนาดใหญ่และหรูหราระดับโลก ของกลุ่ม Soneva นั้น(ในเมืองไทย อยู่ที่เกาะกูด) ไฮไลท์ของรีสอร์ท ก็คือ ทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติที่แท้จริง ด้วยความที่เขาพยายามให้แขกของเขามาสัมผัสกับธรรมชาติที่สุด เขาจึงเก็บค่าที่พักแพงมาก คืนละนับแสนบาทขึ้นไป ดังนั้น อาหารการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผักสดๆ ก็เน้นปลูกเอง จากไร่ จากสวนของตัวเอง ที่จะต้องไม่ใช้ปุ๋ย ไม่ใช้สารเคมีเลย ซึ่งเป็นไปแทบไม่ได้เลย ที่จะปลูกพืชอะไรก็แล้วแต่ในฤดูนี้ เพราะแมลงสารพัดชนิด เข้ามารุมกัดกินพืชผักเสียหายหมด และนี่คือ ภารกิจอันหนักอึ้งและใหญ่หลวงของน้องสาวผม ที่แกจะต้องเอาความรู้ที่แกเรียนมาเมื่อกว่าสี่สิบปีก่อนโน้น ควักเอาออกมาใช้ภาคสนามเมื่อยามแก่ แต่ก็โชคดีเหลือหลายครับที่ ได้รับความเมตตาจากบรรดาปรมาจารย์ที่เคยสั่งสอนผมและเธอมา ก็ยังอุตส่าห์มาติว มาสอน แถมยังให้จุลินทรีย์ที่ค้นพบใหม่ๆ ที่เป็นสายพันธุ์นำติดตัวไปด้วย

ทันทีที่ไปถึง อาจารย์อรทัย ก็แสดงมาดมั่น โดยให้เจ้าหน้าที่ที่นั่น เอาทั้งไส้เดือนฝอยของ ดร.นุชนาถ เอาเชื้อบีที ของ ดร.จริยา ผสมน้ำตามที่อาจารย์แนะนำไป นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ผลงานเริ่มประจักษ์ชัดแล้ว เจ้าหนอนเริ่มตัวดำ ตัวเขียวตายเป็นส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ ต่างดีใจร้องไชโยโห้หิ้วกันและยิ้มออกแล้ว แล้วก็บอกว่า Madame Oratai is very good จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์ของอาจารย์เราต่างหากที่ดีครับ วันนี้ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของปรมาจารย์ด้านชีวเคมี คือ ท่านอาจารย์ ดร.ยุงยุทธ เจียมไชยศรี จะได้ร่วมกันแสดงมุทิตาจิตต่อท่านอาจารย์ที่ท่านอายุ 80 ปีเต็ม ผมในฐานะเป็นลูกศิษย์ท่าน และท่านได้เป็นผู้ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจผมมาโดยตลอดและจำผมได้แม่น วันนี้ ผมจึงเลื่อนการอบรมไปก่อน เพื่อไปร่วมแสดงมุทิตจิตแก่ท่านอาจารย์ และผมจะถือโอกาสขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งหลายที่ช่วยให้น้องสาวผม เอาผลิตภัณฑ์ของอาจารย์ไปแสดงผลงานอันยอดเยี่ยม ฝากไว้เป็นศักดิ์ศรีของชาติไทย ด้วยผู้หญิงแกร่งตัวเล็กๆที่ชื่อ อรทัย เอื้อตระกูล และดีใจที่ได้เป็นพี่ชายแก(ไม่ได้เป็นน้องแกน๊ะ)