เอ็นไซม์ ตอนที่ 10 เอ็นไซม์สำหรับสัตว์

ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล

Sun Nov 21, 2010 8:27 pm

ความสำคัญของเอ็นไซม์ในอาหารสัตว์เลี้ยง

– หากเราพิจารณาอาหารที่ใช้เลี้ยงสุนัขก็จะพบว่า การเตรียมอาหารด้วยความร้อนที่เกิน 48 องศาเซลเซียส อุณหภูมิดังกล่าว จะไปทำลายคุณสมบัติขอเอ็นไซม์อย่างหมดสิ้น จึงทำให้สุนัขได้รับเอ็นไซม์ที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่สัตว์เลี้ยงของเราจะมีระบบการย่อยที่ด้อยประสิทธิภาพและอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยต่าง ๆ อันที่จริงแล้วสัตว์เลี้ยงไม่มีทางเลือกในอาหารแต่ละมื้อเลย

– สุนัขและแมวมีระบบการย่อยอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์ พวกมันต้องการเอ็นไซม์ที่จำเป็นต่อระบบการย่อยอาหาร เมื่อมนุษย์เราเกิดการเจ็บป่วย ก็สามารถที่จะพูดบอกได้ แต่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกได้ แต่มันจะแสดงให้เห็นได้จากอาการท้องผูก ท้องเสีย คันที่ผิวหนังและการผลัดขนจากกระทั่งก่อให้เกิดโรค มนุษย์แต่ละคนมีดีเอนเอ ที่เป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์ สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ก็เช่นกันแถมพกมาด้วยปัญหาอื่นๆ ที่พบบ่อย ๆ ในเฉพาะสายพันธุ์อีก

– ในปัจจุบันสัตวแพทย์พบว่า ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ของสัตว์เลี้ยงเกิดจากภาวะพร่องเอ็นไซม์ เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการใช้เอนไซม์บำบัดปลาวาฬและโลมา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้ได้รับแต่ปลาแช่แข็งเป็นอาหาร และทั้งๆ ที่ได้รับการดูแลอย่างดีมันก็ยังเจ็บไข้ได้ป่วยและมีระดับภูมิคุ้มกันต่ำ รวมถึงเป็นโรคที่ปกติพบในสายพันธุ์ เราตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มีส่วนในการดูแลสุขภาพและให้การรักษา และพบว่าหลังจากให้เอ็นไซม์แทนยารักษาโรค จะมีการตอบสนองดีขึ้นมาก เอ็นไซม์ทำงานได้ผลตลอดกระบวนการย่อยอาหารไม่แตกต่างจากในมนุษย์เลย

– เอ็นไซม์ในอาหารที่สัตว์เลี้ยงกินเข้าไป จะไปทำงานร่วมกันเอ็นไซม์ที่มีอยู่แล้วในร่างกายของสัตว์เลี้ยง ถ้าอาหารไม่สามารถย่อยได้ตามปกติ ร่างกายก็จะไม่สามารถนำสารอาหารไปใช้ในการเสริมสร้างและซ่อมแซมอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงการสร้างพลังงาน และการเสริมประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

– การที่เอ็นไซม์ช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย และขบวนการเผาผลาญพลังงานในเซลล์นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรานำอาหารไปใช้ได้โดยอย่างสมบูรณ์ เพราะหากเราไม่ได้รับเอ็นไซม์เสริมอาหาร ก็ยังคงถูกย่อยเป็นสารอาหารแก่ร่างกายแต่ประสิทธิภาพการย่อยจะไม่ถึงระดับสูงสุด แต่มันกับลดลงไปตามขั้นตอน ไม่แตกต่างกับการสุญเสียวิตามินในระหว่างปรุงอาหาร หรือผ่านขบวนการแปรรูปอาหาร

– การย่อยอาหาร เป็นขบวนการพื้นฐานที่เอ็นไซม์แต่ละชนิดย่อยสลายโปรตีนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และเส้นใยอาหาร จากนั้นร่างกายจะใช้สารอาหารเหล่านี้บำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดี

– มีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า สัตว์ที่อยู่ในป่า จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับการเสื่อมแบบเรื้อรังได้น้อยกว่าสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีแหล่งที่มาของอาหารที่มีเอ็นไซม์อุดมสมบูรณ์ ดังนั้น เมื่อเราให้อาหารที่ผ่านการปรุงให้สุก อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป หรือทำให้แห้ง แล้วนำไปเลี้ยงสัตว์ ขบวนการต่าง ๆ ในการทำให้อาหารสุกและแปรรูปอาหารเหล่านี้ได้ทำลายเอ็นไซม์ในอาหารจนหมดสิ้น ดังนั้นสัตว์เลี้ยงของเรา จึงต้องอาศัยเอ็นไซม์ในร่างกายเพื่อย่อยอาหารแต่เพียงอย่างเดียว ทำให้มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเราใส่เอ็นไซม์ลงไปในอาหารสัตว์เลี้ยง เอ็นไซม์ที่เหมือนกันจะไปกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหาร ให้สามารถทำงานได้เหมือนอาหารที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการปรุง โดยจะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน

– เมื่อระบบเกี่ยวกับการย่อยอาหารไม่ดี ร่างกายจะเริ่มดึงเอ็นไซม์จากระบบภูมิคุ้มกัน มาใช้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคที่รุนแรงหรือเจ็บป่วยได้ เพราะฉะนั้น การให้เอ็นไซม์เสริมในอาหารสัตว์เลี้ยงจะไปช่วยเสริมระบบการย่อยอาหารได้ดีขึ้น

– การขาดเอ็นไซม์ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อลายมีการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความไม่กระฉับกระเฉงของสุนัข การให้เอ็นไซม์เสริม จะสามารถบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ การเคลื่อนไหวไม่สะดวก เจ็บปวดและข้อบวม นอกจากนี้เรายังพบว่า เอ็นไซม์เสริมช่วยลดการบวมน้ำ จะเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยในสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

– เอ็นไซม์โปรตีเอส จะย่อยอาหารในกลุ่มโปรตีน ในระหว่างมื้ออาหาร เอ็นไซม์โปรตีเอสจะย่อยสลายจากโมเลกุลใหญ่ไปเป็นกรดอะมิโน ทำให้แบคทีเรีย เศษเซลล์ พยาธิ เชื้อรา ที่เป็นโปรตีนโมเลกุลใหญ่ถูกย่อยสลายกลายเป็นสารละลาย และถูกขับถ่ายออกทางปัสสาวะอย่างรวดเร็ว

– เอ็นไซม์ไลเปส จะช่วยในการดูดซึมไขมันที่เหมาะสม หากได้รับในระหว่างมื้อ ร่างกายก็จะได้รับกรดไขมันที่จำเป็นเพื่อบำรุงชั้นผิวหนัง ขน และเนื้อเยื่อต่างๆ

– เอ็นไซม์อะไมเลส จะย่อยอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ถ้าการย่อยไม่เหมาะสมก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานได้ หากได้รับในระหว่างมื้อ จะช่วยควบคุมภาวการณ์อักเสบ

– เอ็นไซม์เซลลูเลสจะย่อยอาหารพวกเส้นใย หากได้รับในระหว่างมื้อจะช่วยควบคุมภาวะขาดสารอาหาร และความผิดปกติของลำไส้ได้

ตัวอย่างการรักษา

– ดร.จิม สมิธ เป็นสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาทางด้านภูมิแพ้และโรคผิวหนัง ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยเอ็นไซม์และพบว่าผลการรักษาดีมากส่วนใหญ่เห็นผลภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของสัตว์เลี้ยง ดร.จิม กล่าวว่าตลอดเวลาที่ทำการรักษามาเขายังไม่เคยพบว่า มียาตัวใด จะให้ผลดีได้เหมือนการให้เอ็นไซม์โปรตีนเอสเพื่อรักษาโรคเรื้อน โรคกัดแทะเท้า โรคไร ปรสิตต่างๆ การติดเชื้อที่หูและอาการอื่นๆ อีกมากที่เขาพบในคลินิก ดร.จิม จึงเป็นผู้อบรมการใช้เอ็นไซม์บำบัดแก่สัตวแพทย์ทั่วไปด้วย

– สัตวแพทย์ได้มีการทดลองให้เอ็นไซม์อย่างต่อเนื่อง ในสัตว์ใหญ่เช่น ม้าและช้าง ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ หมอจำนวนมากพูดถึงความเจ็บป่วยที่นำมาสู่สัตว์เลี้ยงกว่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ สัมพันธ์โดยตรงกับอาหาร และความไม่สมดุลย์ของโภชนาการ

– เอ็นไซม์มีผลต่อสุขภาพสัตว์ ไม่แตกต่างกับที่ใช้ได้ผลดีในมนุษย์ ถึงตอนนี้ ท่านคงได้รับทราบถึงประโยชน์ของเอ็นไซม์ต่อสุขภาพคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงของท่านแล้ว แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า การป้องกันเป็นวีธีดีที่สุด เพราะหากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว ท่านควรจะศึกษา หาความรู้และมองหาทางเลือกในการรักษาให้รอบด้าน

ใส่ความเห็น