วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ผมได้จัดงานพบปะสังสรรค์พรรคพวกเพื่อนฝูง เพื่อจะมาทานอาหารและสนุกสนานร่วมกัน รวมทั้งถามเรื่องสุข ทุกข์แก่กัน นอกจากนี้ ก็เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ แม้แต่ใครมีข้อแนะนำอะไรดีที่เป็นประสบการณ์ก็เอามาพูดคุยกันในวงเฮฮาปาร์ตี้นี้ ในงานนี้ ก็ได้รับเกียรติจากผู้จัดการบริษัท Hokuto Corporation ผู้ผลิตเห็ดไม๊ตาเกะรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นมาร่วมด้วย

ที่น่าเซอร์ไพร้สและตื่นเต้นที่สุดที่จู่ๆ มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ที่คอยติดตามผลงานผลโดยบังเอิญมาระยะหนึ่งผ่านทางเฟสบุคของผม ชื่อ ปราโมทย์ เป็นอดีตอาจารย์ที่เคยเรียนหนังสือด้วยกันชั้นมัธยม ที่โรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่รุ่นปี 2512 ได้ไลน์เข้ามาหาแต่เช้าว่า บ้านผมอยู่ไหน จะมาหา แล้วแกก็มาหาเป็นแขกคนแรกของวันนั้น ดีใจมากครับ เพราะผมไม่เคยได้เจอเพื่อนที่เรียนระดับประถมหรือมัธยมมานานแล้ว เนื่องจากผมมีภารกิจไปอยู่ต่างประเทศกว่ายี่สิบปี กลับมาก็อาศัยเกาะไปกับภรรยา เพื่อไปสนุกสนานกับเพื่อนๆของภรรยาผม จนหลายคนคิดว่า ผมเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนปิยะ ที่นครพนม คราวนี้ได้เจอเพื่อนสมใจและดีใจ จะได้ไม่ต้องคิดลึกๆอยู่ในใจว่า เอ้เรามันเป็นคนไร้เพื่อนในอดีตหรือไง ดูเหมือนจากนี้ไป คงจะเริ่มเจอเพื่อนเก่าเพิ่มขึ้น วันนี้ ก็ได้รับข่าวว่า เพื่อนที่เรียนชั้นปฐมด้วยกันติดต่อมาอยากคุยด้วย เอาเป็นว่า ดีใจจริงๆครับ ที่ได้เจอเพื่อนที่เรียนหนังือด้วยกันมาตั้งแต่เด็กครับ แล้วแกก็ไม่ได้มาคนเดียว พาลูกและหลานมาด้วย

พอผมได้นั่งคุยกับปราโมทย์สักพัก ก็เลยบอกปราโมทย์ว่า วันนี้ จะมีแขกที่เป็นเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ เพื่อนของภรรยามาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมากกว่าสี่สิบปี เป็นทั้งศิษย์ เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งครูที่คอยสอนปรัชญาชีวิตให้เมื่อสมัยเป็นนักศึกษา และยังเป็นนักเขียนชื่อดังมา ที่ใช้ชื่อนามปากกาว่า “ช่อลัดดา” ที่สตรีวัยเราๆรู้จักดี เพื่อนผมเลยโทรไปหาภรรยาแก เล่าให้ฟังว่าจะมีใครมาบ้าง ภรรยาปราโมทย์บอกว่า รู้จักกันดี หากเจอขอให้ถ่ายรูปไปให้ดูด้วย นี่ไงครับปราโมทย์ ผมและช่อลัดดา(อายุปาเข้า 70 ปีแล้วน๊ะ เธอยังสาวและสวยพริ้งอยู่เลย)

เพิ่อนผมปราโมทย์ แกเกรงใจ เพราะไม่ได้มีการนัดหมายมาก่อน แกเห็นว่า ผมน่าจะมีแขกมาหาเยอะ ก็เลยจะขอตัวกลับก่อน ผมเองก็ตั้งตัวไม่ติด เพราะด้วยความยินดีและตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อน ก็ยังคิดและตัดสินใจไม่ออกว่า เราจะรั้งเพื่อนไว้ หรือจะชวนให้แกอยู่ต่อดีล่ะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่า หากแขกมาจะดูแลเพื่อนได้ดีไหม แต่อีกใจหนึ่ง ก็อยากให้เพื่อนอยู่ เพราะเป็นเพื่อนคนเดียวที่มาหา หากเพื่อนอยู่พบแขกที่เป็นแขกสนิทของผม เพื่อนก็จะได้เข้าใจในตัวผมมากยิ่งขึ้น อีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากเพื่อนอายุวัยเข้ามาปานนี้แล้ว ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเตือน จึงอยากให้เพื่อนได้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับผู้เคยป่วยรายอื่น ดีกว่าที่จะให้ผมเป็นคนคุยว่า ใช้เห็ด หรือผลิตภัณฑ์จากเห็ดมันดีอย่างไร ผลสุดท้ายปราโมทย์ตัดสินใจอยู่ต่อ โดยให้ลูกๆพากันไปเดินห้างก่อนก็แล้วกัน แล้วปราโมทย์ก็ได้มีโอกาสพูดคุย รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของผม เรื่องเห็ดเป็นยา และเรื่องการรักษาโรคโดยการใช้เห็ด จากภาพ ปราโมทย์กำลังคุยกับคุณเลิศศักดิ์ จรรยาเพศ ผู้ป่วยเบาหวานและไตวายเฉียบพลันครับ

ใส่ความเห็น