ผมถูกหางเลข ถูกกระแนะกระแหน จากคนที่เคยรู้จักและเคยช่วยเหลือมาก่อน เมื่อครั้งที่เขามีปัญหาเรื่องการทำเชื้อเห็ดฟางขาย เมื่อประมาณสามสิบปีที่แล้ว ตอนนี้เขารวยแล้ว มีเครือข่ายทำเชื้อเห็ดฟางที่ยิ่งใหญ่แล้ว และเขาไม่รู้จักผมแล้ว เพราะใครๆก็เรียกเขา เป็นอาจารย์เห็ดขั้นเทพแล้ว ที่ผมถูกกระแนะกระแหนนั้น เป็นเรื่องที่ผมเขียนบทความที่มุ่งเน้นมาตลอดเวลาว่า การเพาะเห็ดในถุง เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดขอนขาว เห็ดลม เห็ดหลินจือ เห็ดเป๋าฮื้อ และอีกมากมายนั้น ไม่จำเป็นจะต้องใช้วัสดุเพาะเห็ด จากขี้เลื่อยไม้ยางพาราเท่านั้น (ก็เพราะผมนี่แหละ ที่สอนให้ใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราเป็นคนแรก เมื่อปี 2516)

ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีอคติหรือต่อต้านเรื่อง การใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราเอามาเพาะเห็ดเลย แต่ด้วยยุคด้วยสมัย ที่มีการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราที่มีจำกัด และส่วนใหญ่มีเฉพาะในพื้นที่ที่ปลูกยางพารามานานแล้วเช่น ทางภาคใต้ และภาคตะวันออก ด้วยความที่มีจำกัด ทำให้ราคาขี้เลื่อยไม้ยางพาราหายากและมีราคาสูงขึ้นตลอดเวลา ในช่วงระยะเวลาที่ผมไปสอนเรื่องเห็ดในประเทศต่างๆในฐานะผู้เชี่ยวชาญเห็ด ขององค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่ทวีปเอเซีย ไปถึงทวีปแอฟริกาเมื่อปี 2524-2548 นั้น ทุกประเทศที่ผมไปสอน ส่วนใหญ่ไม่มีการปลูกยางพารากันเลย มันจึงเป็นภาคบังคับ ที่จะทำให้ผมต้องศึกษา ค้นคว้าทดลองใช้วัสดุอย่างอื่นมาทดแทนการใช้ขี้เลื่อยจากไม้ยางพารา บางทีบางครั้ง สิ่งที่เราคิดว่า ไม้ชนิดนั้น ชนิดนี้ ไม่น่าจะเอามาใช้เพาะเห็ดได้ เช่น ไม้สัก ไม้ยูคา ไม้สน แต่พอมันเข้าตาจน หาอะไรไม่ได้ ก็ลองเอามาทำดูให้รู้แล้วรู้รอด แล้วก็พบว่า มันก็ใช้ได้นี่หว่า

และผมเองนี่แหละ ที่แต่ก่อนที่ยังมีความรู้เรื่องเห็ดไม่มาก (ปัจจุบันก็ยังโง่อยู่ ยังรู้ไม่มากเท่าอาจารย์เห็ดขั้นเทพทั้งหลาย) ผมก็สอนให้ผู้เพาะเห็ดใช้ขี้เลื่อยแห้งเอามาเพาะเห็ด จริงๆแล้วมันไม่ได้แห้งเลย ยกตัวอย่างเช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ที่เขาเลื่อยใหม่ๆ ก็ไม่มีใครเอามาตากแดดให้แห้งนี่ ผมก็จำเป็นต้องทำการศึกษาว่า วัสดุเพาะเห็ดจริงๆแล้ว มันควรจะเป็นของสดๆหรือแห้ง แล้วก็พบว่า สดได้ แห้งก็ได้ ดังนั้น พอผมกลับมาตั้งหลักและใช้ชีวิตเป็นการถาวรที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2548 ผมจึงมีความตั้งใจว่า อะไรก็ตาม ที่ผมทำมันมากับมือ และก็ได้ไปสอนให้ผู้คนส่วนใหญ่เพาะเห็ดกันมาเกือบค่อนโลกได้ แทนที่ผมจะเก็บเอาไว้ใช้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผมเอง ผมกลับมองว่า เรื่องนี้ น่าจะเปิดเผยให้แก่สมาชิก ลูกศิษย์ลูกหาที่เขายอมรับ ที่เขาเปิดกว้างได้มีโอกาสที่รับรู้ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของผม

เช่นเดียวกัน ที่ขณะนี้ ผมได้ขยายธุรกิจไปเพาะเห็ดทั้งเห็ดเศรษฐกิจและเห็ดเป็นยาไปยังประเทศมัลดีฟอีก 2 เกาะ ร่วมกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ท ที่ได้รับการประกาศว่า เป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลกของปี 2559 คือ กลุ่มรีสอร์ท  Soneva ที่เป็นเจ้าของเดียวกันกับ รีสอร์ทโซนีว่า ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะกูด ซึ่งที่นั่น เขาเคยจ้างผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ใช้เงินมหาศาล ใช้วัสดุ อุปกรณ์อย่างดี มาเป็นเวลานานเกือบสิบปี แต่ก็ยังไม่ประสพผลสำเร็จ ทั้งๆที่ของทุกอย่างต้องนำเข้า แต่ที่ผมได้รับเชิญให้เข้าไปดำเนินการร่วมลงทุนนั้น ผมใช้วัสดุที่มีอยู่ที่นั่น ที่เป็นพืช ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งทะเล ต้นจิกทะเล สนทะเล เตยหนามทะเล ต้นหูกวาง ต้นมะพร้าว ใบมะพร้าว กาบมะพร้าว หญ้า ซึ่งวัสดุต่างๆเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครแนะนำให้ใช้ เพราะเข้าใจกันเอาเองว่า มันเป็นพืชที่เกิดขึ้นใกล้ทะเล มันน่าจะเค็มหรือมีเกลือแกงสูง ไม่น่าจะเอามาเพาะเห็ดได้ แต่ผมก็ได้นำเอาวัสดุเหล่านี้ ที่มีที่นั่นอย่างเพียงพอ เอามาสดๆ เอามาบด แล้วเอามาหมักสดๆใส่เชื้อจุลินทรีย์ไบโอวันเข้าไป ใส่อาหารเสริมเข้าไปตั้งแต่วันแรกของการใช้วัสดุเพาะสดๆ ที่ผ่านการสับแล้ว ทำการหมักให้เป็นกองสูงไม่เกิน 80 ซม. โดยกลับกองทุกวัน แค่ 4-6 วัน วัสดุหมักก็จะมีกลิ่นหอม สามารถนำเอาไปเพาะเห็ดที่เพาะได้ในถุงทุกอย่าง
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เป็นตัวอย่างจากการปฏิบัติ ผมจึงได้ซื้อที่ทั้งที่สระบุรีและที่โคกสำโรงอีกกว่าสองร้อยไร่ ทำการปลูกสารพัดต้นไม้ เช่น แค ก้ามปู มะขาม กระถิน สะเดา มะขามเทศ ไผ่ ยางนา แคนา เมื่อต้นไม้โตก็มีการตัดแต่งกิ่งก้านสาขาสดๆ เอามาหมักและเพาะเห็ดได้
วันที่ 22 กุมพาพันธ์ 2560  หลังจากที่ผมผ่านวิกฤตเรื่อง การหาน้ำใช้ในการเกษตร ด้วยการเจาะท่อลอดถนนริมคลองรพีพัฒน์ เพื่อดูดน้ำเข้ามาใช้ได้แล้ว ผมก็เริ่มตัดสางต้นไม้ เพื่อเอากิ่งไม้สดๆ มาบดแล้วหมักด้วยเชื้อไบโอวัน เพื่อใช้ในการเพาะเห็ด เตรียมไว้เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับ ผู้ที่จะเข้ารับการอบรมเรื่องการเพาะเห็ดเศรษฐกิจแนวใหม่ ที่ขอเลื่อนจากกำหนดเดิมคือ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ไปเป็นวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2560 แทนนั้น ในการอบรมครั้งนี้ จะนำเสนอวิธีการเพาะเห็ดในถุงแนวใหม่ ไม่ว่า จะเป็นวัสดุเพาะที่ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่นกันอีกต่อไปแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นขี้เลื่อยไม้ยางพาราแต่เพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกันครับ ภาชนะที่จะใส่วัสดุเพาะ ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงเท่านั้น รวมทั้งการบ่ม การเปิดดอก ควรจะมีทางเลือกที่ดีกว่า สะดวกกว่า ผลผลิตสูงกว่า ที่สำคัญ จะมุ่งเน้น เรื่อง การเพาะเห็ดปลอดสาร ปลอดยาฆ่าแมลงโดยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพง่ายๆอย่างไร
รูปทั้งหมด เป็นต้นไม้ที่อยู่ในสถาบันอานนท์ไบโอเทค อันได้แก่ ต้นไทรจากประเทศจีน ต้นเบาบับ ต้นยางนา ต้นตะโก ต้นขี้เหล็ก ต้นก้ามปู เถาม่านบาหลี เถาและใบย่านางแดง ที่นำเอามาบดเป็นวัสดุเพาะเห็ดครับ สมาชิกท่านใดสนใจในเรื่องการอบรม สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ 029083308, 0860830202 line : mushroom10

Similar Posts