เมื่อปี 2552 ขณะที่ผมกับอาจารย์เยาวนุชกำลังพัฒนาครีมบำรุงผิว ครีมทาหน้าด้วยการใช้สารธรรมชาติจากผลไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเชีย (Shea butter) ที่ขึ้นตามธรรมชาติในประเทศแถบทะเลทรายซาฮาร่า เช่น ประเทศกานา โบกินา ฟาซู กับผลของต้นเบาบับและยางของกำยานโอมานอยู่นั้น ผมได้พาครอบครัวไปดูงานการเพาะเห็ดเยื่อไผ่หลายแห่งในประเทศจีน ทั้งที่เมืองท่าลี่ เมืองหนานหัว เมืองกูเถียน และเมืองหวู่หลีซาน ผมไปตกตลึงที่เห็นเกษตรกรผู้เพาะเห็ดเยื่อไผ่ นั่งขูดเอาวุ้นจากเห็ดเยื่อไผ่ไปทำเครื่องสำอาง ซึ่งจะมีรายได้จากการขายวุ้นเห็ดเยื่อไผ่มากกว่า ขายดอกเห็ดเยื่อไผ่เสียอีก จากนั้น ก็ได้มีนักวิทยาศาสตร์จากจีน มาเสนอขายสารธรรมชาติ ที่คุยว่า มันมีสารบำรุงผิวประเภท Hyaluronic acid, Allantoin, AHA และ PHA เอามาใส่ในส่วนผสมของเครื่องสำอาง และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยบำรุงผิว บำรุงความเต่งตึงมีน้ำมีนวลของร่างกาย และบำรุงสายตา ซึ่งผมให้ความสนใจมาก และได้สั่งเข้ามาทดลองผสมกับครีมที่ใช้เซียบัตเตอร์ได้ดีมาก แต่ผมก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อมันมาใช้ในปริมาณมาก เพราะราคาแพงมาก แถมคุณภาพไม่แน่ไม่นอนอีกด้วย

จากนั้น ผมได้กลับไปศึกษาของกลุ่มสารตัวนี้ที่เมืองจีนอีกหลายครั้ง จนพบความจริงว่า สารที่ผมนำเข้ามา ก็คือ สารที่อยู่ในวุ้นเห็ดเยื่อไผ่นั่นเอง ผมเลยถึงบางอ้อ แล้วก็ตัดสินใจจ้างผู้เชี่ยวชาญเห็ดเยื่อไผ่ ชื่อ Mr. Ye ประธานกลุ่มผู้เพาะเห็ดเยื่อไผ่ จากเมืองหวู่หลี่ซาน มาทำการผลิตเชื้อเห็ดเยื่อไผ่ และทดลองหาวิธีการเพาะเห็ดเยื่อไผ่ด้วยวัสดุต่างๆหลายภูมิภาคในประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยสามารถเพาะเห็ดเยื่อไผ่ได้เกือบตลอดทั้งปี ยกเว้นภาคเหนือและภาคอิสานตอนบนที่มีอากาศหนาวจัดในฤดูหนาว อาจจะมีผลกระทบต่อการเกิดดอกเห็ดเยื่อไผ่ได้ แต่หากใช้สายพันธุ์เปลือกสีชมพูที่ชอบอากาศเย็น ก็จะสามารถเพาะในฤดูหนาวได้

[envira-gallery id=”7691″]

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวุ้นที่เป็นเมือกห่อหุ้มดอกเห็ดเยื่อไผ่ขณะที่อายุยังน้อยอยู่นั้น มันทำทั้งหน้าที่เป็นตัวป้องกันการกระทบกระเทือบ และถูกทำลาย นอกจากนี้ ยังป้องกันการบูด เน่า เสีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเน่าได้ โดยปกติในส่วนที่เป็นวุ้นนั้น จะมีในปริมาณมากระหว่างเปลือกหุ้มดอก (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่มีสรรพคุณทางยาสูง) และดอกอ่อน จะมีประมาณ 18-22 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์ของเห็ดเยื่อไผ่ สายพันธุ์ที่ให้วุ้นมากที่สุด คือ สายพันธุ์พื้นเมืองของไทย สายพันธุ์ยุโรปที่ได้รับตัวอย่างดอกสดมาจากคุณติ๊ก ที่อยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ รองลงมาคือ สายพันธุ์จากจีน ครับ

สารสำคัญที่มีอยู่ในวุ้นเห็ดเยื่อไผ่(รวมทั้งเห็ดนิ้วมือนาง หรือมือผี เห็ดตาโล่ (Dragon Eye Mushroom,(Calostoma sp.) ก็มีวุ้นที่มีสารสำคัญเฉกเช่นเดียวกัน) ได้แก่ สาร Hyaluronic acid, Allantoin, AHA และ PHA หรือ Gluconic acid, Fibroblast growth factors ซึ่งสารต่างๆ มีความสำคัญดังนี้

[envira-gallery id=”7692″]

สาร กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid, HA) หรือที่เรียกว่า ไฮยาลูโรแนน(Hyaluronan)

มีสูตรทางเคมีคือ (C14H21NO11) ที่มีน้ำหนักโมเลกุลตั้งแต่ 5,000-20,000,000 ดาลตัน โดยปกติเซลผิวหนังของมนุษย์ ประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิค สูงมากกว่า 80% ส่วนที่เหลือไม่ถึง 20% เป็นสารคอลลาเจน (collagen) และสารอีลาสติน (elastin) ซึ่งจริงๆแล้ว สารสำคัญที่ทำให้ผิวหนังกระชุ่มกระชวย มีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง สดใส มีชีวิตชีวาก็คือ สารไฮยาลูโรแนน ที่มีอยู่ในวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ที่เราเพาะได้ ไม่ต้องสั่งมาจากต่างประเทศที่มีราคาแพงๆครับ กรดไฮยาลูโรนิค เป็นสารแขวนลอย ที่ทำหน้าที่คอยจับยึดโปรตีนกับคอลลาเจนเข้าไว้ด้วยกัน อยู่บริเวณผิวหนังชั้นล่าง (dermis) แล้วกระจายไปถึงผิวหนังชั้นบน (epidermis) หากในร่างกายมีกรดไฮยาลูโรแนนมากพอ มันก็จะช่วยทำให้ผิวหนังเก็บกักความชื้นได้ชุ่มชื่นได้ดีอย่างสมบูรณ์มากกว่าปกติได้หลายเท่า (โดยไม่เพิ่มความมันแบบที่ไม่ดี sebum บนผิวชั้นนอก) ทำให้ผิวหนังดูแน่น เนียน เฟริม และยืดหยุ่นได้ดี ประหนึ่งดั่งวุ้นหรือเจลลี่ที่มันจะจับเก็บสารคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ทำให้ผิวหนังดูชุ่มชื่น มีน้ำมีนวล เรียบเนียน เปล่งปลั่ง สะท้อนแสงได้ดีขึ้น แต่หากขาดกรดไฮยาลูโรแนน จะทำให้ขาดน้ำ จะแข็ง ไม่ยืดหยุ่น ผิวเหี่ยวย่น หยาบกร้าน ผิวไม่เนียน สีหมองคล้ำ หรือดูซูบซีด ดูไม่เปล่งปลั่งสดใส นอกจากนี้ สารไฮยาลูโรแนน ยังช่วยในการสมานแผลได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยการนำเอาโปรตีนที่เรียกว่า fibronectin เคลื่อนย้านไปยังจุดที่เป็นแผล ทำให้แห้งเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานที่เป็นแผลหายช้า ป้องกันการอักเสบได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงแรกๆของการอักเสบ (HA can protect against free-radical damage to cells) นอกจากนี้ ในวงการแพทย์ ยังใช้สารไฮยาลูโรแนน (Hyaluronan) ฉีดเข้าไปตามข้อต่อของกระดูกที่มีปัญหา โรคข้อกระดูกเสื่อม (osteoarthritis)

[envira-gallery id=”7696″]

สารอัลแลนโทอิน (Allantoin)

เป็นสารธรรมชาติ ที่มีสูตรทางเคมีคือ C4H6N4O3 มีน้ำหนักโมเลกุล 158.12 ดาลตัน (เล็กกว่าน้ำตาลกลูโคส ร่างกายดูดซึมเข้าไปได้ง่าย) เป็นสารที่มีอยู่มากในวุ้นจากเห็ดเยื่อไผ่ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ เพราะส่วนใหญ่ มักไปสกัดมาจากต้นคอมฟรี่ (Comfrey) หรือจากเมือกหอยทาก ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางค์และยา โดยทำหน้าที่ ลด การระคายเคือง ต่อต้านการแพ้ต่างๆของผิว (soothing and anti-irritanting) และเสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อ (granulation tissue) ช่วยกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์อย่างรวดเร็ว มีคุณสมบัติพิเศษในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อหยาบให้สมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ มีคุณสมบัติพิเศษในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อหยาบให้สมบูรณ์ ปลอดภัยและไร้ผลข้างเคียงสามารถใช้ได้แม้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทารก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศรีษะ ป้องกันอาการแพ้คันตามผิวหนัง ช่วยเก็บกักน้ำหล่อเลี้ยงผิวเพิ่มให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ลดการเกิดรังแคบนหนังศีรษะ การซ่อมแซมหนังศีรษะที่ถูกสารเคมี หรือแสง UV

[envira-gallery id=”7697″]

กรดกลูตามิก (Glutamic Acid) หรือกลูตามิน

หรือ Polyhydroxy acid, PHA จัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนไม่จำเป็น แต่มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทที่ออกฤทธิ์แบบกระตุ้น มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเรียนรู้และจดจำของสมอง มีหน้าที่หลักคือ เป็นเชื้อเพลิงให้กับสมอง มีความสามารถในการจัดการกับแอมโมเนียส่วนเกินซึ่งจะยับยั้งการทำงานขั้นสูงของสมอง อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นกลูตามีน เนื่องจากกลูตามีนทำให้ระดับของกรดกลูตามิกสูงขึ้นได้มาก หากร่างกายได้รับกลูตามีนจากอาหารได้น้อย จะส่งผลให้สมองขาดกลูตามิกได้ กลูตามีน เป็นส่วนหนึ่งของกลูตาไทโอน ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลักในร่างกาย ซึ่งพบได้ในเกือบทุกเซลล์ของร่างกาย ดังนั้นหากขาดกลูตามีน ก็จะส่งผลให้ร่างกายขาดกลูตาไทโอนด้วย และกลูตามีนยังช่วยเพิ่มระดับของโกร๊ธฮอร์โมนได้อีกด้วย กลูตามีน ช่วยให้คุณฉลาดขึ้น(ช่วยเพิ่มไอคิว แม้แต่ในเด็กที่มีปัญหาทางสติปัญญา) กลูตามีนยังช่วยในการควบคุมโรคติดสุราเรื้อรัง ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้แผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น ช่วยป้องกันกล้ามเนื้อลีบฝ่อในผู้ป่วยเรื้อรัง ช่วยสร้างกล้ามเนื้อสำหรับคนที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้กลูตามีน ยังถูกใช้ในการรักษาโรคจิตเภทและอาการที่เกี่ยวเนื่องกับความชรา ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกได้อีกด้วย โดยปกติ สาร PHA ที่มีอยู่ในเห็ดเยื่อไผ่ จะมีคุณสมบัติในการบำบัดริ้วรอยของผิวหน้าให้ดูดีขึ้น รักษาสิว ฟื้นฟูภาวะผิวแห้ง ช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังชั้นนอกทำให้เซลล์ผิวหนังรุ่นใหม่เจริญเติบโตได้เร็วขึ้น ดีกว่าสาร AHA (Alpha Hydroxy Acid) ที่มีอยู่ในเมือกหอยทาก ที่มีโอกาสเกิดการระคายเคืองมากกว่า สำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างไว

Fibroblast growth factor

คือ กลุ่มโปรตีนที่ทำหน้าที่เจาะจง ที่จะไปกระตุ้นให้เซลมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลผิวใหม่ ทำให้เซลเจริญเติบโต ซ่อมแซมเซลที่เสื่อมของผิวหนัง กระตุ้นเซลในผิวหนังกำพร้าให้สร้างเซลใหม่ขึ้นมาทดแทน ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนทำให้ผิวเต่งตึง เพิ่มกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แตกกร้าน เพิ่มสารอีลาสตินทำให้ผิวยืดหยุ่น ไม่เหี่ยวย่นย่อนคล้อย คล้ายๆกับการส่งรหัสมอสสู่ผิวใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สเต็มเซลของผิวหนังแบ่งตัวเร็วขึ้น ซึ่งสารดังกล่าวในวุ้นของเห็ดเยื่อไผ่นี้ จะได้ผลดีมากขึ้น หากสามารถใช้ในรูปของวุ้นสดๆ

นี่ไง คือ สิ่งที่ผู้เพาะเห็ดเยื่อไผ่ของประเทศจีน จะทำรายได้จากการขูดเอาวุ้นบริเวณรอบระหว่างดอกอ่อนกับเยื่อหุ้มดอกภายนอก เอาออกมาขายเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือผสมในเครื่องสำอาง ที่มีราคาแพง เป็นการทำให้ผลผลิตที่ได้มีค่าเพิ่มอีกทางหนึ่ง ดังนั้น ทางสถาบันอานนท์ไบโอเทค จึงได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากมายหลายชนิด เกี่ยวกับการใช้วุ้นเห็ดเยื่อไผ่เป็นส่วนผม ทั้งอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ เครื่องสำอาง เช่น ครีมทาหน้าผสมวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ ครีมบำรุงผิวจากวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ สบู่และครีมอาบน้ำรวมทั้งแชมพูจากวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ นอกจากนี้ ยังได้ผลิตวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ผงผ่านขบวนการ Freeze dry เพื่อรักษาสรรพคุณทางยาและโกร็ธแฟคเตอร์ครบครันเหมือนสภาพของสด เพื่อลดการนำเข้า
ขอแสดงความยินดี ที่มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสนใจเรื่องของเห็ดเยื่อไผ่ และได้ช่วยกันศึกษาในทางลึก ในทางวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น เช่น สถาบันแสงซินโครตรอนที่ตรวจสอบปริมาณสาร และสารต่างๆในเห็ดเยื่อไผ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาทางด้านเห็ดเยื่อไผ่กับเซลมะเร็ง โรคความอ้วน โรคหัวใจ มหาวิทยาลัยรังสิต ศึกษาทางด้านเภสัชและเครื่องสำอาง สถาบันอานนท์ไบโอเทค ด้านการเพาะและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

[envira-gallery id=”7699″] [su_note note_color=”#1561b2″ text_color=”#ffffff”]ในงานเสวนาเห็ดเป็นยาประชารัฐ ที่จะจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโรงพยาบาลมะเร็งอุดรกับสถาบันอานนท์ไบโอเทค ของวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ของตึกใหม่ชั้น 8 ที่จะจัดให้บริการทางวิชาการฟรีแก่ผู้สนใจทั่วไปนั้น ก็จะมีการพูดถึง รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์จากวุ้นเห็ดเยื่อไผ่ไปแสดงและจำหน่ายในงานนี้ด้วย ที่แน่นอนที่สุด จะเป็นส่วนหนึ่งของการสอนในวันอบรมเรื่องเห็ดเป็นยา โดยจะเน้นเรื่องการทำเชื้อและเพาะเห็ดเยื่อไผ่ ในวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2561 ที่จะถึงนี้ จะมีการสอนและสาธิตการใช้วุ้นจากเห็ดเยื่อไผ่มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆด้วย ท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์ หรือเข้าร่วมการอบรม หรือเสวนา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 029083308, 0860830202, 0858270085 line : mushcare (กรุณาติดต่อเวลากลางวันนะครับ)[/su_note]

ใส่ความเห็น