สัปดาห์ปลายเดือนพฤษภาคม 2560 เป็นช่วงที่อีกหนึ่งความทรงจำที่ดีใจสุดๆที่ได้เจอเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ตั้งแต่ครั้งเรียนประถม และมัธยม นี่คือ เพื่อนเก่า ส่วนเพื่อนแก่ ก็คือ คนที่รู้จักและเคยสนิทสนมทำกิจกรรมร่วมกันแต่ท่านมีอายุมากกว่าผมเยอะ นี่ผมเรียกตามสำนวนโวหารไทยๆว่า เพื่อนแก่
นี่คือ เพื่อเก่าระดับปฐมครับ

[envira-gallery id=”4760″]

เพื่อนเก่า พิริยาลัย

[envira-gallery id=”4762″]

นี่คือ เพื่อนผู้สูงอายุกว่าผม ที่กลอนพาไปเรียกว่า เพื่อนแก่ครับ (นามปากกา “ช่อลัดา”ครับ)
[envira-gallery id=”4763”]

ครับเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2560 ผมจัดงานเลี้ยงเล็กๆตามปกติที่บ้านพักที่โชคชัยสี่ โดยเชิญบรรดาพรรคพวกที่อยู่กรุงเทพมาทานอาหารกลางวันร่วมกัน ปรากฏว่า วันนั้น มีเพื่อนเก่าผมจากโรงเรียนพิริยาลัย ชื่อ ปราโมทย์ ธรรมประเสริฐ ได้มาร่วมด้วย เหตุที่แกมาร่วมก็เพราะ เราได้ติดต่อกันผ่านทางไลน์มาระยะหนึ่งแล้ว และแกก็เอ่ยขึ้นว่าสุขภาพเมื่อแก่ตัวลงก็ย่อมมีเสื่อมนั่นนี่หลายจุดในร่างกาย แล้วบอกว่า จะหาเวลาว่างมาหาผม ผมก็แซวไปว่า ในรู้ตัวว่าสุขภาพเสื่อมบางจุด ทำไมไม่รีบรักษา หรือมาทานเห็ดเป็นยาเสริมสุขภาพสิ พอได้ที ผมก็สำทับต่อไปอีกว่า นี่มันเป็นเรื่องสุขภาพน๊ะ ทำไมต้องซื้อเวลาล่ะ เมื่อรู้ว่ามีปัญหา ก็รีบแก้เสียสิ ที่พาเมียไปเที่ยวนั่นนี่ยังไปได้(นั่นลามไปโทษเมียแกอีก) แกคงคิดได้ จึงให้ลูกชายมาส่ง แล้วก็ได้คุยกันถึงเรื่องทั่วไป พร้อมทั้งแกสารภาพว่า แกมีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากและไต จึงอุตส่าห์หอบเงินแสนกว่าไปซื้อเห็ดถั่งเช่าจากจีนมาทาน และก็ดูเหมือนจะหายดีแล้ว เพราะไปหาหมอตรวจไม่พบแล้ว

ครับในงานเลี้ยงนี้ ได้มีเพื่อนๆหลายคนที่ป่วย ที่มีประสบการณ์รอดตายหรือเฉียดตายจากโรคเบาหวานและไตวายเฉียบพลัน ผมก็เลยจัดให้ปราโมทย์คุยกับคุณเลิศศักดิ์อย่างถูกอกถูกใจและน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เมื่อเริ่มมั่นใจแล้ว ปราโมทย์บอกว่า นี่เพิ่งขออนุมัติจากเมียให้เงินมาหนึ่งหมื่นบาท เพื่อมาซื้อกาแฟเห็ด 22 กระปุก เพื่อแบ่งๆไปให้เพื่อนๆ ซึ่งผมรับปาก แต่ไม่สามารถรับเงินได้ เพราะไม่มีของ โดยขอเวลาว่าไม่เกินวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายนนี้ได้แน่นอน และก็ทำเสร็จทันเวลาชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ

พอปราโมทย์กลับไป ผมก็เข้าไปเปิดดูข่าวสารในเฟสและไลน์ ก็ทราบว่า มีเพื่อนที่เรียนระดับประถมสองรายชื่อ นิตยาและสายันต์ พริบไหวโทรมาหาว่า อยากคุยด้วย ผมจึงได้โทรกลับไปหาเพื่อนที่ชื่อสายันต์ด้วยความดีใจ ก็ได้คุยกันพอสังเขป ผมจึงแนะนำให้สายันต์ที่เปลี่ยนชื่อแล้วเป็น จรรยพรว่า สามารถติดต่อข่าวคราวผมได้ที่เฟส Thaibiotec Mushroom แม้ว่าสมาชิกจะเต็มมาเกือบสิบปีแล้ว แต่ก็จะจัดพื้นที่ให้ เธอก็เข้ามาเป็นสมาชิกทันที จากนั้นเราก็สนทนากันต่อทาง Inbox ครับ โดยผมแนะนำว่า ในฐานะเพื่อนที่สนิทและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก จึงอยากให้แกเข้าไปช่วยคอมเม้นต์ในเฟสที่เป็นสาธารณะบ้าง อย่างน้อย ก็เป็นการช่วยกันแสดงความคิดเห็น และเสริมกัน ที่สำคัญมันจะเป็นเกียรติประวัติที่เราเพื่อนๆมาช่วยกันเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังสังคม

สักพัก ผมได้คำตอบจากเพื่อนดังนี้ครับ “ที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพราะระดับนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเลยเกรงๆใจ แต่ชื่นชมเพื่อนเป็นที่สุดนะคะขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ” นี่ไง จากวินาทีนั้น จนถึงตอนนี้ ผมมีความรู้สึกว่า เพื่อนผมยังไม่เข้าใจในตัวตนและเนื้อแท้ของผม ซึ่งมีเพื่อนหลายคนเข้าใจผิด คิดว่า การที่ผมได้ไปทำงานในต่างประเทศ ทำงานเป็นระดับอาวุโสขององค์การค้าโลก แห่งสหประชาชาติ แล้วผมจะสูงส่งกว่าใครๆ เปล่าเลยครับ สำหรับใครก็ตาม ที่คอยติดตามผลงานผมมาโดยตลอด จะเห็นว่า ผมไม่เคยยึดติดตำแหน่งหรือหน้าตาดั่งที่ใครๆเขาคิดหรือทำกัน

ในทางตรงกันข้าม ผมกลับมองไปว่า การที่ผมจับพลัดจับผลูไปได้ไกลเพียงนั้น มันอาจจะเป็นแค่จังหวะของชีวิต แต่เอาล่ะ เราได้ไปเป็นเช่นนั้น มันก็เป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้รับรู้ เรียนรู้ และมีประสบการณ์ โดยผมได้รับประสบการณ์ที่เป็นสัจธรรมนำทางชีวิตว่า เราเลือกตัวเองที่จะเดินมาในสายของความเป็นครู หรือผู้มีแต่ให้แล้ว ผู้ที่รอรับจำนวนมาก เขายังยึดติดและเชื่อมั่นในตัวเราอยู่ และเราได้พิสูจน์หลายแง่ หลายมุมว่า ยังมีข้อบกพร่องอีกมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของเห็ด ที่ผมทุ่มทั้งชีวิต โดยเอาชีวิตทั้งชีวิตเป็นเดิมพันนั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมไม่รู้ ไม่เคยทำ แม้กระทั่งการดำเนินชีวิต ที่เคยเลือกเอากับความสะดวกด้วยเงิน และอยู่เฉยๆ สั่งให้ลูกน้องหรือคนใช้ทำให้ จากการที่เราไม่รู้เอง ไม่ได้ลงมือทำเอง ทำให้ข้อมูลที่จะเอาไปแนะนำในภาคสนามมันอาจจะคลาดเคลื่อนได้

ผมจึงตัดสินใจเกษียณอายุการทำงานกับองค์การนานาชาติ ขณะที่ผมอายุเพียง 55 ปี และผมก็ตัดสินใจกลับไทย ซื้อที่ที่ทำฟาร์มเห็ดตัวอย่างที่ปัจจุบัน โดยเลิกประพฤติปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในอดีต ที่เปิดบริการแนะนำปรึกษาแก่คนสนใจทุกวัน เปลี่ยนมาเป็นปิดประตูเลยครับ ไม่รับปรึกษา ไม่รับโทรศัพท์ มุ่งแต่ทำงานภาคปฏิบัติด้วยตนเอง เริ่มจากงานในบ้าน ซักผ้า ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ และประกาศจะทำทุกอย่างเองโดยไม่มีคนใช้ จากนั้น ทุกเดือน ก็จะเอาสิ่งที่ได้ค้นพบจากการลงมือปฏิบัติ มาเปิดโอกาสให้แก่ผู้สนใจ ผ่านการอบรมเห็ดเดือนละครั้งเท่านั้น นี่คือ ตัวตนที่ผมทำอยู่ทุกวัน และก็เป็นกิจกรรมที่ผมทำสมัยที่เตี่ย แม่ยังมีชีวิตอยู่ ครับ ผมได้ชี้แจงเพื่อนๆไปว่า อย่าไปมองผมเช่นนั้นเลย ผมยังเป็นผมเหมือนชีวิตในวัยเด็ก ที่ทำงานทุกอย่างเองดั่งสมัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่

ดีใจครับที่เพื่อนเข้าใจ และมีความสุขเหลือเกิน ที่เพื่อนๆ ได้เริ่มเข้ามาช่วยเสริมในเฟสนี้แล้วครับ ไชโยๆๆๆๆๆ
นี่คือ ตัวตนของผมครับ

[envira-gallery id=”4764″]

Similar Posts

ใส่ความเห็น