Reply To: นายจิวหน้าม้าเจ้าเก่า ของแท้ ตอบเรื่อง ความหมายของคำว่าตลาด

Home / Forums / การเพาะเห็ด / เรื่องทั่วไป / นายจิวหน้าม้าเจ้าเก่า ของแท้ ตอบเรื่อง ความหมายของคำว่าตลาด / Reply To: นายจิวหน้าม้าเจ้าเก่า ของแท้ ตอบเรื่อง ความหมายของคำว่าตลาด

    May 11, 2017 at 9:50 pm #4054

    คำตอบของคุณประวัติ เรื่อง การตลาด ดังนี้ ผม เข้าใจว่า การตลาดคือ การสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งราคาต้องตั้งอยู่บนความเหมาะสมของต้นทุนและกำไร โดยมีมนุษยธรรมและคุณธรรมกำำกับคน
    เอาไปเลยจิว 19 คะแนน จากคะแนนเต็มร้อย
    จิวขอขอบคุณมาก ที่ทำงานเป็นหน้าม้าครองอันดับหนึ่งอยู่ คำตอบของคุณ เหมือนคำตอบของผมเมื่อ ปี 2539 เปี๊ยบเลย ตอนที่ผมไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ของ ITC/GATT(International Trade Centre) ขององค์การค้าโลก (World Trade Organization, WTO) ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เลย ตอนนั้น หัวหน้าฝ่ายของทวีปแอฟริกา ชื่อ ดร.ทีโอดอร์ โคฟี่ มาคาม(Theodore Kofi Makham) ซึ่งสนิทสนมกับผมมาก และเคยมาเมืองไทยหลายครั้ง แต่ละครั้งก็มานอนอยู่ที่บ้านผม โดยผมพาแกตะเวณไปดูงานที่น่าสนใจหลายแห่ง พอเราสนิทกันมากๆ จนกระทั่งเราไปตั้งบริษัทไทยไบโอเทค สาขาอยู่ที่กรุงโจฮันเนสเบริก ประเทศแอฟริกาใต้ โดยมีชาวมาลาวีอีกคนหนึ่งชื่อ ติโมตี้ คารามารา (Timothy Karamara)เป็นหุ้นส่วน (อีตาติโมตี้คนนี้แหละ ที่ผมออกค่าใช้จ่ายให้พา อีตานิติภูมิ ไปตะเวณหลายประเทศในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นการเปิดบริสุทธิ์ครั้งแรกของแกในการไปเหยียบแอฟริกา ก่อนที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญแอฟริกาไปเสียแล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า แกยังจำผมได้ไหม แต่ก็ช่างเถอะ ผมมันก็แค่สะพานเชื่อมเก่าๆ ผุๆแล้วเท่านั้น พอพาคนเขาข้ามถึงฝั่งได้ เขาก็ถีบทิ้งเสียดีกว่า เพราะมันเก่าแล้ว สู้ไปใช้ของใหม่ดีกว่า) พอเราทดลองทำธุรกิจ โดยเอาเรื่องเห็ดไปทดลองทำการตลาด พร้อมทั้งเอาสินค้าไทยไปทำตลาดที่นั่น คุณมาคามก็ตั้งคำถามผมว่า ขอให้ผมอธิบายความหมายคำว่า การตลาดหมายความว่าอย่างไร ผมก็อธิบายอย่างคุณนี่แหละ แกก็ให้คะแนนผม แค่ 20 คะแนนจาก 100 นี่คือ สาเหตุว่า ทำไมผมให้คุณน้อยกว่าผมไป 1 ก็เพราะผมต้องการหักค่านายหน้าไป 5% ไง ทีนี้ผมก็ย้อนถามท่านบ้างว่า อะไรกัน ในเมืองไทย ผมผลิตอะไรเกี่ยวกับเห็ดผมไม่มีปัญหาเรื่องการขายผลิตภัณฑ์เลย โดยผมพยายามผลิตสินค้าที่สมาชิกต้องการ โดยเน้นคุณภาพ และบริการ ท่านก็บอกว่า นั้นมันไม่ใช่การตลาด แต่นั่นมันเรื่องของ การผลิตและการขาย ผมก็เถียงแกอีก แล้วยังคุยทับท่านอีกว่า โอ้ยใครๆเขาก็ว่า ผมนี่แหละคือ สุดยอดของการตลาดในเรื่องเห็ดของไทย เพราะทำเท่าไหร่ ก็ขายหมด ผลิตเท่าไหร่ ก็ไม่พอ แล้วอย่างนี้ ยังไม่ถือว่า ผมเป็นนักการตลาดชั้นยอดเหรอ ท่านบอกว่า ไม่เลย ผมก็ชักฉุนแล้วล่ะสิ บ่นอยู่ในใจว่า อะไรว่ะ อีตานี่มันกวนนี่หว่า ตอบอะไรแกก็บอกว่าไม่ถูก คะแนนที่ได้ไม่เกิน 20 เลย ผมก็เถียงท่าน และขอให้ท่านอธิบายให้ผมฟังสิว่า การที่ผมผลิตของดี มีคุณภาพ แล้วขายดีจะผลิตไม่ทัน ทำไมท่านไม่ให้ตำแหน่งผมเหมือนคนไทยคนอื่นเล่า ท่านก็เลยบอกว่า ลักษณะที่ผมบรรยายนั้น ผมเองเป็นได้แค่นักขาย(Salesman)เท่านั้น ท่านว่า ผมไม่ใช่นักการตลาด (Marketing man) ท่านเห็นด้วยและเห็นกับตาว่า ผมทำเก่ง ขายเก่ง พูดเก่ง และมีโอกาสดี เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นสมาชิก(ท่านกำลังประชดผมว่า ผมขายในลักษณะปิดประตูตีแมว) ผมก็ชักงงสิ และผมเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วในความหมายของคำว่า นักขาย ผมยอมรับในสถานะของผมจากตำตอบของท่าน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า นักขาย กับนักการตลาดมันต่างกันตรงไหน ท่านก็เลยยกตัวอย่างของ ขบวนการขายตรง เช่น ของแอมเวย์(ผมไม่ได้ค่าโฆษณาเขาน๊ะ เพียงแต่ผมถูกเล้าโลม ชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิก เพื่อแลกกับการได้มาซึ่งแผ่นดินที่ตั้งของศูนย์ไทยไบโอเทค แห่งนี้ เอาไว้ว่างเล่าให้ฟัง เพราะเรื่องมันยาว ช่วงไหนว่างๆไม่มีเรื่องอื่นมาก คุณก็เขามาสกิดให้เล่าให้ฟังสิ) เขาทำการตลาดของเขาอย่างไร ใช่ว่า อยู่ๆเขาจะเอาของมาขายๆๆๆๆๆ สินค้าดีมีคุณภาพๆๆๆๆและเอากำไรเยอะๆๆๆๆ บริการดีๆๆๆๆ เปล่าเลย เขากลับชักชวนคุณมาร่วมกิจกรรม พาคุณไปเที่ยวที่นั่นที่นี้ สั่งสอนให้คุณเป็นนักพูด นักขาย ทั้งสอน ทั้งพาเที่ยว และพาพูด ทั้งๆที่ในอดีตเราแทบไม่เคยที่จะทำอย่างนี้มาก่อนเลย เราจึงมีความรู้สึกว่า นี่คือ เพื่อนแท้ของเรา นี่คือ ผู้จุดสว่างแห่งปัญญาให้แก่เรา แล้วคุณรู้ไหม คนทั้งโลก โดยเฉพาะ คนไทย เมื่อคุณมีความรู้สึกที่ดีต่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือองค์กร หรือบริษัท ห้าง ร้านแล้ว คุณก็จะเริ่มมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ยิ่งเขามีบุญคุณกับเรา เราหรือจะลืมบุญคุณเขา และพร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง เพราะเราเชื่อเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณเขา ตรงนี้ไง ท่านึงย้อนกลับมาที่ตัวผมว่า การที่ผมเริ่มสอนเรื่องเห็ดมาตั้งแต่ปี 2516 และก็เพียรพยายามมาอย่างไม่ย่อท้อ และก็ดูกระฉับกระเฉงขึ้นตลอด จับอะไรขึ้นมาเล่น ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจทั้งสิ้น นอกจากนี้ ท่านว่า ผมเป็นคนเปิดเผย มีอะไรใหม่ๆก็จะเอามาสอน เอามาเล่าให้ใครต่อใครฟัง โดยมิได้ปิดบัง ท่านว่า นั่นแหละ เป็นขบวนการและรายละเอียดของการตลาดทั้งสิ้น และท่านก็บอกว่า จริงๆแล้ว ผมไม่ใช่นักขายเลย ท่านบอกว่า คุณนั่นแหละ คือ นักการตลาดที่สุดยอดที่สุด(ผมเริ่มลอยแล้วครับ) และท่านก็ขยายความหมายในคำพูดของท่านต่อว่า เพราะผมนั้นเป็นนักสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า พอลูกค้าเขาเชื่อ เขาเลื่อมใส และเขามั่นใจต่อองค์กรหรือสินค้าของผมแล้ว การซื้อ การขายนั้น มันเพียงเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดเท่านั้น ที่มีความสำคัญเพียง 21% เท่านั้น(ผมจึงได้คะแนนคำตอบแค่ 20 คุณได้ 19 ไง) สรุปแล้วจิว ความหมายของคำว่า การตลาดนั้น สั้นๆแต่กินใจความ คือ การสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีนั่นเอง ทีนี้จะดีต่อใคร ต่อองค์กรไหน ก็ว่ากันไป แล้วทำไมผมจึงบอกให้ยายจันทร์ทิพย์มาดูตัวอย่างวิธีการทำการตลาดจากคุณ ก็เพราะ นานมาแล้ว จำได้ว่า ตอนที่คุณเข้ามากวนผมในฟอรั่มนี้ใหม่ คุณบอกว่า คุณเริ่มทำเห็ดได้ แต่มีน้อย เลยเอาไปแจกใครต่อใคร แล้วทุกคนก็ดีใจและพอใจ บางคนถึงขนาดบอกคุณว่า หากมีเหลือ หรือ มีเยอะ เขาก็พร้อมที่จะซื้อของคุณ เพราเขาเห็นว่าคุณเป็นคนดี มีน้ำใจ และผลิตภัณฑ์ดี บริการดี อะไรๆๆๆๆก็ดูดีไปหมด ก็เพราะคุณไปสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับเขามาก่อน ผมจึงยกคุณขึ้นมาว่า นั่น เป็นขั้นตอนของการตลาด แล้วต่อไปคุณก็จะเป็นเซลล์แมน มาถึงตอนนี้ คุณพร้อมที่จะให้คะแนนผมหรือยัง มาถึงตรงนี้ คุณถึงบางอ้อแล้วหรือยังว่า แรงจูงใจ ที่ทำให้ผมต้องมาเขียนฟอรั่มนี้ทำไม หาคำตอบเอาเองก็แล้วกัน วันนี้สอนเรื่องที่แม้ระดับปริญญาเอก อย่างอีตากระเทยเฒ่าที่จีบปากจีบคอร่ายอยู่ที่เอ็นบีที มันคงไม่เข้าใจครับ