IMG_25601120_083434
IMG_25601120_083437
IMG_25601120_083439
IMG_25601120_083446
IMG_25601120_083457

ผมได้รับเชิญจากคณะกรรมการจัดงานวันเห็ดแห่งชาติจีน(The Chinese Mushroom Day) ให้ไปบรรยาย แลกเปลี่ยนความรู้และให้คำแนะนำในหลายมิติเกี่ยวเห็ดทั้งของไทยและของจีนที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรม Wanda Realm เมืองฉางเฉา จังหวัดฟู๋เจี่ยน ใกล้เมืองเศรษฐกิจเซี๊ยะเหมิน

ผมก็ได้ไปพูดในสิ่งที่ผมพอมีความรู้และประสบการณ์ โดยผมก็ยังหวั่นใจว่า การพูดของผมนั้น หากผมจะพูดแค่เยินยอสรรเสริญ และเอาเฉพาะเรื่องในด้านดีไปพูด เพื่อทำให้เขาดูดี ก็น่าจะทำได้และน่าจะได้รับความชื่นชมจากเจ้าของบ้านอย่างดีเป็นแน่แท้ แต่หากผมไปพูดจี้จุดเขา ไปตำหนิเขา เขาคงไม่ชอบ เผลอๆ ผมอาจจะถูกแบล๊คลีสต์ถูกไล่กลับหรือเข้าประเทศจีนต่อไปไม่ได้ แต่พอผมไปถึง ผมได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคณะกรรมการ และเขาก็มาเล่าให้ผมฟังถึงปัญหาการเพาะเห็ดของจีน เขาก็อยากให้ผมช่วยวิเคราะห์แนะนำให้เขาด้วยว่า เขาควรทำอย่างไร โล่งอกเลยครับว่า สิ่งที่ผมเตรียมการแผนสองที่จะเอาไปพูดกับเขานั้น ผมสามารถลุยได้เต็มที่

พอถึงวันที่ผมจะพูดเป็นเวลาหกโมงเย็นของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 โดยสาระสำคัญในรายละเอียด ผมจะค่อยๆทยอยเอามาพูด แต่โดยสรุปแล้ว ผมพูดประเด็นถึงประเทศไทยว่า เราไม่ได้ให้ความสนใจในการเพาะเห็ดเพื่อเป็นการส่งออกแข่งขันกับจีนหรือประเทศอื่นใด แต่เรามีเอกลักษณ์ของเราในการเพาะเห็ด โดยทำการเพาะเห็ดที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน กล่าวคือ ทั่วโลก เขาแข่งขันกันเพาะเห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุม แต่คนไทยกลับหันไปเพาะเห็ดฟาง ซึ่งอร่อยกว่า เพาะง่ายกว่า แม้ว่าจะไม่สามารถเก็บข้ามคืนได้ เรายังครองแชมป์เป็นผู้ผลิตเห็ดฟางได้มากที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกัน คนไทย รู้เรื่องการบริโภคมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่รสชาติอร่อยเท่านั้น แต่รู้ถึสรรพคุณทางยา ทำให้คนไทยที่เคยมีสถิติบริโภคเห็ดน้อยที่สุดแค่ไม่ถึงพันกรัมต่อคนต่อปีในปี 2515 ปัจจุบันคนไทยบริโภคเห็ดมากกว่า 10,000 กรัมหรือกว่าสิบ กก.ต่อคนต่อปี สูงไม่แพ้ญี่ปุ่นและเยอรมัน การที่คนไทยทานเห็ดเพิ่มขึ้น และเพาะเห็ดมากขึ้นถึงกว่าห้าแสนตัน แต่กระนั้นยังไม่พอ ยังนำเข้ามจากต่างประเทศอีกกว่าสามแสนตัน 98% ของเห็ดนำเข้า เป็นเห็ดที่มาจากจีน

ตรงนี้แหละครับ คือ หมัดฮุคของผมครับ โดยหมัดฮุคดังกล่าวของผมที่แถมท้ายก็คือว่า มันเป็นเรื่อน่าเศร้าที่เห็ดนำเข้าจากจีนหลายชนิด มีสารตกค้างสูงเกินปริมาณที่กำหนดในมาตรฐานสากล เช่น เห็ดเยื่อไผ่ เห็ดหูหนูขาว ที่ทำการรมไอกำมะถันให้มันขาวเสียก่อนนั้น มีกำมะถันออกไซด์สูงเกินมาตรฐานเกือบร้อยเท่า ผมก็ได้เอาตัวเลขการวิเคราะห์โชว์ให้เขาดูว่า ดูอย่างเห็ดเยื่อไผ่สิ ไทยนำเข้าเห็ดเยื่อไผ่แห้งจากจีนปีละ หกพันตัน หรือเทียบเท่าเห็ดเยื่อไผ่สดแสนกว่าตัน จากการวิเคราะห์ตัวอย่าง พบว่า เห็ดเยื่อไผ่จากจีนมีกำมะถันออกไวด์สูงเกือบ 5,000 ppm. ขณะที่มาตรฐานสากลอนุญาตให้มีไม่เกิน 70 ppm. บางประเทศเช่น ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งจีน หากนำสินค้าประเภทอาหารเข้าประเทศ ปริมาณกำมะถันออกไซด์จะต้องไม่เกิน 30 ppm. ด้วยเหตุนี้ ลำใยเราอบกำมะถันนานแค่ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ผิวสีทอง จีนก็ห้ามนำเข้า แต่นี่เห็ดจากจีน มีเกินกำหนดร้อยเท่า ส่งไปขายที่ไหนในโลกก็ไม่ได้ ยกเว้นไทย

ผมจี้จุดมาถึงตรงนี้ พอผมพูดจบ ผมก็คิดว่า หลายคนที่ฟัง และส่งเห็ดมาไทย คงไม่พอใจผม แต่ผิดคาดครับ ผมกลายเป็นฮีโรในสายตาเขา และเขาได้มาขอให้ผมแนะนำอีกว่า จะให้เขาทำอย่างไร ตรงนี้ไงครับ ที่ผมเห็นว่า นี่คือ การเปลี่ยนแปลงและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ของจีน ที่เขาต้องการรู้ปัญหา และจะช่วยกันแก้ปัญหาทั้งระบบ จึงไม่แปลกใจครับว่า ผมจึงได้รับของขวัญของชำร่วยมากมาย และที่สำคัญ ผมเป็นผู้รับเชิญเพียงคนเดียว ที่หัวหน้าผู้ดำเนินงานจัดงาน(ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ) และประธานจัดงานเห็ดแห่งชาติจีน ได้เดินทางมาส่งผมขึ้นรถกลับไทยอย่างสวัสดิภาพ และเขาจะส่งตัวแทนมาสำรวจตลาดในไทยเร็วๆนี้ พร้อมทั้งจะเชิญผมไปพูดให้แก่กลุ่มผู้เพาะเห็ดของจีนในอนาคตอีกต่อไป

การไปบรรยายที่จีนครั้งนี้ ได้ความรู้และบทเรียนอันทรงคุณค่ามากมาย โดยผมไม่ได้คาดหวังว่า ผมแค่ไปถ่ายรูป เอาเฉพาะเรื่องสวยๆงามๆแบบผิวเผินเอามาฝาก เอามาอวดว่า ข้าฯได้ไปดูงานที่เมืองนอกแล้ว แต่สิ่งที่เป็นประเด็นอันสำคัญว่า เราได้ข้อคิด ตลอดจนปัญหาอะไร ที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้แก่วงการเห็ดของไทยเราบ้าง ตลอดจนช่องทางในอนาคตว่า เราน่าจะมีโอกาสเพาะเห็ดเพื่อการส่งออกกับเขาได้บ้างไหม แล้วผมจะทยอยนำมาเล่าให้ฟัง โดยอาจจะเอาเรื่องกลยุทธ์ของ”การวางยา” ของความล้มเหลวในการส่งเสริมการเพาะเห็ดของไต้หวันแล้วผ่องถ่ายไปให้จีนรับเคราะห์แทน แล้วเราจะเป็นเช่นนั้นเหรอ โปรดติดตามครับ

การไปบรรยายที่จีนครั้งนี้ ได้ความรู้และบทเรียนอันทรงคุณค่ามากมาย โดยผมไม่ได้คาดหวังว่า ผมแค่ไปถ่ายรูป เอาเฉพาะเรื่องสวยๆงามๆแบบผิวเผินเอามาฝาก เอามาอวดว่า ข้าฯได้ไปดูงานที่เมืองนอกแล้ว แต่สิ่งที่เป็นประเด็นอันสำคัญว่า เราได้ข้อคิด ตลอดจนปัญหาอะไร ที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้แก่วงการเห็ดของไทยเราบ้าง ตลอดจนช่องทางในอนาคตว่า เราน่าจะมีโอกาสเพาะเห็ดเพื่อการส่งออกกับเขาได้บ้างไหม แล้วผมจะทยอยนำมาเล่าให้ฟัง โดยอาจจะเอาเรื่องกลยุทธ์ของ”การวางยา” ของความล้มเหลวในการส่งเสริมการเพาะเห็ดของไต้หวันแล้วผ่องถ่ายไปให้จีนรับเคราะห์แทน แล้วเราจะเป็นเช่นนั้นเหรอ โปรดติดตามครับ 23622498_1858265050854977_3075678695635995440_n อานนท์ เอื้อตระกูล ไทยไบโอเทค

ใส่ความเห็น